ปัญหาที่ผู้ประกอบการและ Supplier หลายรายเผชิญในปัจจุบันคือการเข้าถึง ลูกค้าจัดซื้อในกลุ่มธุรกิจ Hospitality และ Wellness ที่มีคุณภาพ การนัดหมายกับผู้มีอำนาจตัดสินใจ การนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการ และการสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ล้วนเป็นความท้าทายที่ต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรอย่างมาก แต่จะเป็นอย่างไรหากมีงานที่รวบรวมนักจัดซื้อจากโรงแรม รีสอร์ท และโรงพยาบาลชั้นนำมาไว้ในที่เดียว พร้อมระบบจับคู่ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ
CARE GLOBAL FAIR 2025 กิจกรรมสินค้า B2B ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ด้วยแนวคิด “Business 2 Hospitality Hub” ที่มุ่งเน้นการจับคู่ระหว่างผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้ให้บริการ กับนักจัดซื้อในกลุ่มธุรกิจบริการโดยตรง งานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 8-9 กันยายน 2568 ณ โรงแรมในพื้นที่พัทยา โดยคาดว่าจะมีผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านการจัดซื้อกว่า 500 รายเข้าร่วม ซึ่งเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาดในการขยายฐานลูกค้าและสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง
ทำไมการหาลูกค้าจัดซื้อในกลุ่ม Hospitality จึงเป็นเรื่องยาก
การเข้าถึงลูกค้าจัดซื้อ ในกลุ่มโรงแรม รีสอร์ท และโรงพยาบาล มีความท้าทายหลายประการที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายประสบความยากลำบาก ประการแรกคือโครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในโรงแรมเครือข่ายขนาดใหญ่หรือโรงพยาบาลเอกชน ที่มีขั้นตอนการอนุมัติหลายระดับ การเข้าพบผู้มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริงจึงต้องผ่านหลายขั้นตอนและใช้เวลานาน
ความท้าทายที่สองคือวงจรการจัดซื้อที่มีความเฉพาะเจาะจง โรงแรมและโรงพยาบาลมักมีรอบการจัดซื้อที่แน่นอน มีมาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวด และมีกระบวนการประเมิน Supplier ที่ละเอียด การที่จะเข้าไปอยู่ใน Vendor List ของสถานประกอบการเหล่านี้จึงต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองหลายด้าน ทั้งคุณภาพสินค้า ความน่าเชื่อถือของบริษัท และความสามารถในการส่งมอบตามเวลา
นอกจากนี้ การแข่งขันที่สูงในตลาดยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง Supplier จำนวนมากต่างแข่งขันกันเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ทำให้การโดดเด่นและสร้างความแตกต่างเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่หรือ SME ที่ยังไม่มีชื่อเสียงในวงการ
ปัญหาด้านการสื่อสารและการนำเสนอก็เป็นอุปสรรคสำคัญ การนำเสนอสินค้าผ่านแคตตาล็อกหรืออีเมลอาจไม่สามารถสื่อสารคุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่หรือมีคุณสมบัติพิเศษที่ต้องการการสาธิตหรืออธิบายโดยละเอียด การขาดโอกาสในการพบปะแบบตัวต่อตัวทำให้การสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ทางธุรกิจเป็นไปได้ยาก
ข้อจำกัดด้านงบประมาณและทรัพยากรของ Supplier โดยเฉพาะรายย่อยก็เป็นปัญหาใหญ่ การเดินทางไปพบลูกค้าตามโรงแรมหรือโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศต้องใช้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายสูง ขณะที่อัตราความสำเร็จในการปิดดีลอาจไม่คุ้มกับการลงทุน ทำให้หลายบริษัทต้องจำกัดการขยายตลาดหรือเลือกเน้นเฉพาะลูกค้าเดิมที่มีอยู่
ระบบ Business Matching ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
Business Matching หัวใจสำคัญของงาน CARE GLOBAL FAIR 2025 ที่ทำให้งานนี้แตกต่างจากงานแสดงสินค้าทั่วไป ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายที่มีความต้องการตรงกันอย่างแม่นยำ ทำให้ทุกการพบปะมีคุณภาพและมีโอกาสในการพัฒนาไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจสูง การนัดหมายแบบตัวต่อตัวแล้ว งานยังมี Speed Dating Sessions สำหรับการพบปะแบบรวดเร็ว ที่ผู้ขายสามารถพบผู้ซื้อหลายรายในเวลาสั้นๆ เหมาะสำหรับการแนะนำตัวและสร้างการรับรู้เบื้องต้น ซึ่งอาจนำไปสู่การนัดหมายเพื่อเจรจาในรายละเอียดในภายหลัง
งาน CARE GLOBAL FAIR มีการคัดกรองผู้ซื้อที่เข้าร่วมอย่างเข้มงวด โดยเน้นเฉพาะผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจหรือมีส่วนสำคัญในกระบวนการจัดซื้อจริง ได้แก่ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ เจ้าของกิจการ และผู้บริหารระดับสูง ทำให้ผู้ขายมั่นใจได้ว่าจะได้พบกับผู้ที่สามารถตัดสินใจซื้อได้จริง
กลุ่มเป้าหมายคุณภาพที่เข้าร่วมงาน
งาน CARE GLOBAL FAIR 2025 รวบรวมลูกค้าจัดซื้อ จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรม Hospitality และ Wellness ที่มีความต้องการสินค้าและบริการคุณภาพสูง แต่ละกลุ่มมีลักษณะและความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับ Supplier ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายในการขยายฐานลูกค้า..อ่านเพิ่มเติม
- โรงแรม 4-5 ดาวเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีความต้องการสินค้าและบริการระดับพรีเมียม ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง ผ้าปูที่นอน อุปกรณ์ในห้องน้ำ ไปจนถึงเทคโนโลยีห้องพักอัจฉริยะ โรงแรมเหล่านี้มักมีงบประมาณการจัดซื้อสูงและให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคา พวกเขามองหา Supplier ที่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตรงเวลา มีบริการหลังการขายที่ดี และสามารถเป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาวได้
- รีสอร์ทหรูเป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ โดยมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าโรงแรมทั่วไป เช่น เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่ทนทานต่อสภาพอากาศ อุปกรณ์สปาและเวลเนส ระบบสระว่ายน้ำ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รีสอร์ทมักมีการรีโนเวทเป็นระยะเพื่อรักษามาตรฐานและสร้างความแปลกใหม่ให้แขก จึงเป็นตลาดที่มีความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่อง
- โรงพยาบาลเอกชนเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาเพื่อรองรับ Medical Tourism ความต้องการสินค้าครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ เฟอร์นิเจอร์โรงพยาบาล ระบบควบคุมการติดเชื้อ ไปจนถึงระบบบริหารจัดการอาคาร โรงพยาบาลให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นอันดับแรก รองลงมาคือความสะดวกสบายของผู้ป่วยและประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร
- Wellness Center และสปาเป็นตลาดที่กำลังขยายตัว ด้วยกระแสรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ความต้องการสินค้าประเภทอุปกรณ์สปา ผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพี เครื่องมือนวดและบำบัด รวมถึงระบบจัดการแสงและเสียงเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้มักมองหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้ลูกค้า
- ผู้รับเหมาโครงการโรงแรมเป็นอีกกลุ่มที่สำคัญ พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจเลือกวัสดุและอุปกรณ์สำหรับโครงการใหม่หรือโครงการรีโนเวท การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มนี้อาจนำไปสู่การได้งานโครงการขนาดใหญ่และต่อเนื่อง ผู้รับเหมามักมองหา Supplier ที่มีความน่าเชื่อถือ ส่งของตรงเวลา และให้การสนับสนุนด้านเทคนิคได้ดี
สินค้าและบริการที่ตลาดต้องการใน 2026
ตลาด Hospitality และ Wellness ในปี 2025 มีแนวโน้มความต้องการสินค้าและบริการที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยี ลูกค้าจัดซื้อในกลุ่มนี้กำลังมองหานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และประสบการณ์ผู้ใช้
เทคโนโลยีห้องพักอัจฉริยะเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูงสุด โรงแรมและโรงพยาบาลต่างมองหาระบบที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนการดำเนินงาน ตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมห้องพักด้วยเสียง ระบบ Mobile Key ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากแรงกดดันด้านกฎระเบียบและความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม วัสดุก่อสร้างและตกแต่งที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล อุปกรณ์ประหยัดน้ำและพลังงาน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดสารเคมี และบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ ล้วนเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูง
ด้านสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งได้รับความสำคัญมากขึ้นหลังวิกฤต COVID-19 ทำให้มีความต้องการสินค้าประเภทระบบฟอกอากาศ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ UV สุขภัณฑ์แบบไม่ต้องสัมผัส และระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ โรงแรมและโรงพยาบาลพร้อมลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ
อุปกรณ์และระบบสำหรับครัวและ F&B ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีความต้องการสูง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดของเสีย และรักษามาตรฐานคุณภาพอาหาร เช่น ตู้เย็นอัจฉริยะที่ตรวจสอบอุณหภูมิและแจ้งเตือนอัตโนมัติ เครื่องย่อยเศษอาหาร ระบบจัดการสต็อกวัตถุดิบ และอุปกรณ์ทำอาหารที่ประหยัดพลังงาน
บริการด้านการบำรุงรักษาและซ่อมแซมแบบครบวงจรก็เป็นที่ต้องการมากขึ้น โรงแรมและโรงพยาบาลต้องการ Supplier ที่ไม่เพียงแต่ขายสินค้า แต่ยังให้บริการหลังการขายที่ดี มีทีมช่างที่พร้อมให้บริการ มีอะไหล่สำรอง และสามารถให้คำแนะนำในการบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ทำไม CARE GLOBAL FAIR 2025 จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับ Exhibitor
การเข้าร่วมเป็น Exhibitor ในงาน CARE GLOBAL FAIR 2025 ไม่ใช่แค่การเช่าพื้นที่แสดงสินค้า แต่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนหลายด้าน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดในกลุ่ม Business Matching ระดับพรีเมียม
- ประการแรก คือโอกาสในการพบปะลูกค้าเป้าหมายจำนวนมากในเวลาเพียง 2 วัน ซึ่งหากต้องเดินทางไปพบลูกค้าเองอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนและค่าใช้จ่ายสูง การที่ลูกค้ามารวมตัวกันในงานทำให้ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้า
- การได้นำเสนอสินค้าแบบ Live Demonstration เป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ลูกค้าสามารถสัมผัส ทดลองใช้ และเห็นประสิทธิภาพของสินค้าได้จริง ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นได้ดีกว่าการนำเสนอผ่านแคตตาล็อกหรือออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่หรือมีคุณสมบัติพิเศษที่ต้องการคำอธิบาย
- ระบบ Business Matching ที่มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มคุณภาพของ Lead ที่ได้รับ แทนที่จะต้องคัดกรองลูกค้าเอง ระบบจะจับคู่ให้พบกับผู้ที่มีความต้องการตรงกับสินค้าของคุณ ทำให้อัตราการแปลงเป็นยอดขายสูงขึ้น และลดเวลาในกระบวนการขาย
- การสร้าง Brand Awareness ในกลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดก็เป็นผลพลอยได้ที่สำคัญ แม้ว่าลูกค้าบางรายอาจยังไม่พร้อมซื้อในทันที แต่การได้รู้จักแบรนด์และผลิตภัณฑ์จะทำให้นึกถึงคุณเมื่อมีความต้องการในอนาคต การมีบูธในงานยังแสดงถึงความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพของบริษัท
- โอกาสในการเรียนรู้และอัปเดตแนวโน้มตลาดจากการสัมมนาและการพูดคุยกับผู้เข้าร่วมงานก็เป็นประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม การได้ฟังความต้องการของลูกค้าโดยตรง การเห็นสินค้าของคู่แข่ง และการเรียนรู้แนวโน้มใหม่ๆ จะช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ทันท่วงที
- การสร้างเครือข่ายกับ Supplier รายอื่นก็เป็นโอกาสที่ดี อาจนำไปสู่การร่วมมือทางธุรกิจ การเป็นพันธมิตรในการเสนอ Total Solution ให้ลูกค้า หรือการแนะนำลูกค้าให้กันและกัน ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังพิจารณา ควรมองว่าค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานเป็นการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับมูลค่าของการได้ลูกค้าใหม่แม้เพียงรายเดียว อาจคุ้มค่ากับการลงทุนทั้งหมด และหากสามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวได้ ผลตอบแทนจะยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ
การแก้ปัญหาการหา ลูกค้าจัดซื้อ ในกลุ่มธุรกิจ Hospitality และ Healthcare ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ CARE GLOBAL FAIR 2025 ได้สร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอย่างแท้จริง ด้วยระบบ Business Matching ที่มีประสิทธิภาพ การรวบรวมผู้มีอำนาจตัดสินใจกว่า 500 ราย และบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาธุรกิจ งานนี้จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาด
สำหรับ Supplier ที่เหนื่อยล้ากับการตามหาลูกค้า การลงทุนเพื่อเข้าร่วมงานนี้จะเป็นการเปลี่ยนเกมการขายของคุณ จากการวิ่งตามหาลูกค้า มาเป็นการให้ลูกค้าที่มีคุณภาพเดินมาหาคุณเอง พร้อมความพร้อมในการเจรจาและตัดสินใจซื้อ นี่คือโอกาสในการสร้างยอดขาย ขยายเครือข่าย และยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น
อย่ารอช้า!! จองพื้นที่แสดงสินค้าในงาน CARE GLOBAL FAIR 2025 วันนี้
เปลี่ยน Budget Marketing ของคุณที่มีแค่ View และ Like ให้เป็น Purchase Order
จองพื้นที่วันนี้ด่วน ก่อนเต็ม!
